ค้นหาบล็อกนี้

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

วิจัยสูบบุหรี่มวนเดียวเสี่ยงหัวใจวาย


รายงานจากสหรัฐฯ ย้ำบุหรี่แค่มวนเดียวสามารถทำลายเซลล์ในร่างกายได้ ส่งผลให้หลอดเลือดอุดตันและหัวใจวาย

การสูบบุหรี่ส่งผลร้ายทันตา โดยการสูดควันเข้าปอดแต่ละครั้งจะแพร่กระจายสารพิษมากมายมหาศาลเข้าสู่อวัยวะส่วนใหญ่ของร่างกาย และอาจส่งผลร้ายถึงขั้นหัวใจวายได้

          รายงานความยาว 700 หน้าจากกรมการแพทย์ทหารของสหรัฐฯ พบว่าการได้รับควันบุหรี่ไม่ว่าปริมาณมากน้อยเพียงใดไม่ปลอดภัยทั้งนั้น ไม่ว่าจะสูดเข้าไปอย่างตั้งใจหรือสูดควันของคนอื่นโดยบังเอิญก็ตาม

          เรจินา เบนจามิน เจ้ากรมการแพทย์ทหาร อธิบายว่า การสูบบุหรี่จะส่งควันเข้าสู่กระแสเลือดทันทีและทำให้สารเคมีในเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลงและเลือดเหนียวขึ้น ผลที่ตามมาคือการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งจะรุนแรงขึ้นหากสูบบุหรี่เป็นเวลานาน

          ดร.เทอร์รี พีคาเซ็ก จากศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ เสริมว่า นั่นหมายความว่าการสูบบุหรี่ในงานปาร์ตี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจวายสำหรับคนที่หลอดเลือดหัวใจอุดตันโดยไม่รู้ตัว

          คนมักคิดว่าการสูบบุหรี่ในงานสังคมชั่วครั้งชั่วคราวไม่อันตราย แต่รายงานล่าสุดระบุในทางตรงกันข้าม

          รายงานยังพบว่าแม้การสูดควันเล็กๆ น้อยๆ จากควันบุหรี่มือสองอาจก่อให้เกิดอาการเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจขั้นรุนแรง เช่น หัวใจวายได้

          รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อพิวโบล รัฐโคโลราโด ห้ามการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเมื่อปี 2003 จำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลลดลงถึง 41% ในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น

          นอกจากนี้ รายงานยังรวมการค้นพบล่าสุดด้านพันธุกรรมเพื่อช่วยอธิบายว่าทำไมบางคนถึงติดบุหรี่มากกว่าและเป็นโรคจากการสูบบุหรี่เร็วกว่าคนอื่นๆ รวมถึงระบุถึงการออกแบบและเนื้อหาของผลิตภัณฑ์บุหรี่ในปัจจุบัน ที่ทำให้บุหรี่ดึงดูดและเสพติดมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
          ทั้งนี้ รายงานอธิบายว่าเหตุใดเราจึงควรเลิกสูบบุหรี่ดังนี้

          20 นาที: ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของชีพจรกลับสู่ระดับปกติ

          8 ชั่วโมง: ระดับนิโคตินและคาร์บอนมอนอกไซด์ในเลือดลดลงครึ่งหนึ่ง ออกซิเจนกลับสู่ระดับปกติ

          24 ชั่วโมง: คาร์บอนมอนนอกไซด์จะหมดไปจากร่างกาย ปอดเริ่มขับเมือกและซากความเสียหายจากการสูบบุหรี่ออก

          48 ชั่วโมง: ไม่มีนิโคตินเหลือในร่างกาย ความสามารถในการรับรสชาติและกลิ่นดีขึ้นมาก

          72 ชั่วโมง: หายใจได้ง่ายขึ้น หลอดลมเริ่มผ่อนคลายและพลังงานเพิ่มขึ้น

          2-12 สัปดาห์: ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

          3-9 เดือน: ไอ อาการหายใจลำบากดีขึ้นเนื่องจากปอดทำงานได้ดีขึ้น 10%

          5 ปี: ความเสี่ยงหัวใจวายของผู้สูบบุหรี่ลดลงครึ่งหนึ่ง

          10 ปี: ความเสี่ยงมะเร็งปอดของผู้สูบบุหรี่ลดลงครึ่งหนึ่ง ความเสี่ยงหัวใจวายลดเหลือระดับเดียวกับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่

          รายงานชี้ว่า บุหรี่ทุกวันนี้ส่งนิโคตินเข้าสู่ร่างกายได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อหลายปีก่อนมาก

          ต้องมีรายงานออกมาอีกกี่ฉบับ คองเกรสส์ถึงจะจัดให้บุหรี่เป็นผลิตภัณฑ์ต้องห้าม

          ผู้ป่วย 1 ใน 3 ในโรงพยาบาลขณะนี้มีสาเหตุมาจากบุหรี่ดร.เค ไมเคิล คัมมิงส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิโคตินจากสถาบันมะเร็งรอสเวลล์ ปาร์กในนิวยอร์ก ที่เป็นผู้ตรวจสอบรายงานฉบับนี้ กล่าว

          การสูบบุหรี่ส่งผลร้ายมากมายต่ออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยโรคบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยากขึ้น รวมถึงทำให้ผู้หญิงคลอดลูกยากขึ้น

          สตรีมีครรภ์ที่สูบบุหรี่ยังมีแนวโน้มสูงที่จะแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด ขณะที่ลูกที่คลอดออกมามีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเสียชีวิตฉับพลันขณะหลับ
 

          ไม่สายเกินไปที่คุณจะเลิกบุหรี่ ยิ่งเลิกเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น แม้อายุ 70-80 ปีแล้ว การเลิกบุหรี่ยังมีผลดีเสมอ


 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ