รายงานจากสหรัฐฯ ย้ำบุหรี่แค่มวนเดียวสามารถทำลายเซลล์ในร่างกายได้ ส่งผลให้หลอดเลือดอุดตันและหัวใจวาย
รายงานความยาว 700 หน้าจากกรมการแพทย์ทหารของสหรัฐฯ พบว่าการได้รับควันบุหรี่ไม่ว่าปริมาณมากน้อยเพียงใดไม่ปลอดภัยทั้งนั้น ไม่ว่าจะสูดเข้าไปอย่างตั้งใจหรือสูดควันของคนอื่นโดยบังเอิญก็ตาม
เรจินา เบนจามิน เจ้ากรมการแพทย์ทหาร อธิบายว่า การสูบบุหรี่จะส่งควันเข้าสู่กระแสเลือดทันทีและทำให้สารเคมีในเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลงและเลือดเหนียวขึ้น ผลที่ตามมาคือการอุดตันของหลอดเลือด ซึ่งจะรุนแรงขึ้นหากสูบบุหรี่เป็นเวลานาน
ดร.เทอร์รี พีคาเซ็ก จากศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ เสริมว่า นั่นหมายความว่าการสูบบุหรี่ในงานปาร์ตี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจวายสำหรับคนที่หลอดเลือดหัวใจอุดตันโดยไม่รู้ตัว
รายงานยังพบว่าแม้การสูดควันเล็กๆ น้อยๆ จากควันบุหรี่มือสองอาจก่อให้เกิดอาการเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดหัวใจขั้นรุนแรง เช่น หัวใจวายได้
รายงานยังตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อพิวโบล รัฐโคโลราโด ห้ามการสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเมื่อปี 2003 จำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลลดลงถึง 41% ในเวลาเพียง 3 ปีเท่านั้น
นอกจากนี้ รายงานยังรวมการค้นพบล่าสุดด้านพันธุกรรมเพื่อช่วยอธิบายว่าทำไมบางคนถึงติดบุหรี่มากกว่าและเป็นโรคจากการสูบบุหรี่เร็วกว่าคนอื่นๆ รวมถึงระบุถึงการออกแบบและเนื้อหาของผลิตภัณฑ์บุหรี่ในปัจจุบัน ที่ทำให้บุหรี่ดึงดูดและเสพติดมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
ทั้งนี้ รายงานอธิบายว่าเหตุใดเราจึงควรเลิกสูบบุหรี่ดังนี้
20 นาที: ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของชีพจรกลับสู่ระดับปกติ
8 ชั่วโมง: ระดับนิโคตินและคาร์บอนมอนนอกไซด์ในเลือดลดลงครึ่งหนึ่ง ออกซิเจนกลับสู่ระดับปกติ
24 ชั่วโมง: คาร์บอนมอนนอกไซด์จะหมดไปจากร่างกาย ปอดเริ่มขับเมือกและซากความเสียหายจากการสูบบุหรี่ออก
48 ชั่วโมง: ไม่มีนิโคตินเหลือในร่างกาย ความสามารถในการรับรสชาติและกลิ่นดีขึ้นมาก
72 ชั่วโมง: หายใจได้ง่ายขึ้น หลอดลมเริ่มผ่อนคลายและพลังงานเพิ่มขึ้น
2-12 สัปดาห์: ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
3-9 เดือน: ไอ อาการหายใจลำบากดีขึ้นเนื่องจากปอดทำงานได้ดีขึ้น 10%
5 ปี: ความเสี่ยงหัวใจวายของผู้สูบบุหรี่ลดลงครึ่งหนึ่ง
10 ปี: ความเสี่ยงมะเร็งปอดของผู้สูบบุหรี่ลดลงครึ่งหนึ่ง ความเสี่ยงหัวใจวายลดเหลือระดับเดียวกับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่
รายงานชี้ว่า บุหรี่ทุกวันนี้ส่งนิโคตินเข้าสู่ร่างกายได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อหลายปีก่อนมาก
“ต้องมีรายงานออกมาอีกกี่ฉบับ คองเกรสส์ถึงจะจัดให้บุหรี่เป็นผลิตภัณฑ์ต้องห้าม
“ผู้ป่วย 1 ใน 3 ในโรงพยาบาลขณะนี้มีสาเหตุมาจากบุหรี่” ดร.เค ไมเคิล คัมมิงส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิโคตินจากสถาบันมะเร็งรอสเวลล์ ปาร์กในนิวยอร์ก ที่เป็นผู้ตรวจสอบรายงานฉบับนี้ กล่าว
การสูบบุหรี่ส่งผลร้ายมากมายต่ออวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยโรคเบาหวานควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยากขึ้น รวมถึงทำให้ผู้หญิงคลอดลูกยากขึ้น
สตรีมีครรภ์ที่สูบบุหรี่ยังมีแนวโน้มสูงที่จะแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด ขณะที่ลูกที่คลอดออกมามีแนวโน้มมากขึ้นที่จะเสียชีวิตฉับพลันขณะหลับ
“ไม่สายเกินไปที่คุณจะเลิกบุหรี่ ยิ่งเลิกเร็วเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น แม้อายุ 70-80 ปีแล้ว การเลิกบุหรี่ยังมีผลดีเสมอ”
ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ